ารทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการดูแลผิวที่ทุกคนควรปฏิบัติ เพราะครีมกันแดดจะทำหน้าที่เหมือนเป็นเกราะป้องกันผิวจากรังสี UVA และ UVB
ทำไมเราต้องใช้ครีมกันแดด?
แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผิวพรรณของเรา ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือที่ร้ายแรงที่สุดคือการเป็นมะเร็งผิวหนัง การทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการดูแลผิวที่ทุกคนควรปฏิบัติ เพราะครีมกันแดดจะทำหน้าที่เหมือนเป็นเกราะป้องกันผิวจากรังสี UVA และ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวต่างๆ
ครีมกันแดดมีกี่ประเภท?
- ครีมกันแดดทางกายภาพ (Physical Sunscreen): ทำหน้าที่สะท้อนรังสี UV ออกจากผิว โดยมีส่วนผสมหลักคือ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ซึ่งเป็นสารอนุภาคขนาดเล็กที่เคลือบอยู่บนผิว
- ครีมกันแดดทางเคมี (Chemical Sunscreen): ทำหน้าที่ดูดซับรังสี UV และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนปล่อยออกไป ตัวอย่างส่วนผสม เช่น Oxybenzone, Avobenzone
วิธีเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม
- ค่า SPF: ย่อมาจาก Sun Protection Factor หมายถึงระดับการป้องกันรังสี UVB ซึ่งเป็นสาเหตุของการผิวไหม้
- ค่า PA: ย่อมาจาก Protection Grade of UVA หมายถึงระดับการป้องกันรังสี UVA ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
- ประเภทผิว: เลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย
- กิจกรรม: เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA สูงขึ้น หากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน
เคล็ดลับในการใช้ครีมกันแดด
- ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-20 นาที: เพื่อให้ครีมกันแดดได้ซึมเข้าสู่ผิว
- ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง: หรือบ่อยครั้งขึ้นหากว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมาก
- ทาให้ทั่วถึง: รวมถึงใบหน้า คอ หลังหู และบริเวณที่โดนแดด
- เลือกครีมกันแดดที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้: ทดลองใช้ครีมกันแดดกับผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วใบหน้า
ข้อควรระวัง
- ครีมกันแดดไม่สามารถป้องกันแสงแดดได้ 100%: ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลา 10.00-14.00 น. และสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกาย
- ครีมกันแดดมีอายุการใช้งาน: ควรตรวจสอบวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์ก่อนใช้งาน