ใบเหลียง ผักพื้นบ้านที่คนไทยคุ้นเคยกันดี นอกจากจะมีรสชาติอร่อย ถูกปากคนไทยหลายคนแล้ว ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจ
ใบเหลียง ผักพื้นบ้านที่คนไทยคุ้นเคยกันดี นอกจากจะมีรสชาติอร่อย ถูกปากคนไทยหลายคนแล้ว ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจอีกมากมาย วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับประโยชน์ของใบเหลียงที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน
ประโยชน์ของใบเหลียงที่คุณควรรู้
- บำรุงสายตา: ใบเหลียงอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคตาเสื่อม และยังช่วยให้สายตาดีในที่มืดได้ดียิ่งขึ้น
- บำรุงผิวพรรณ: สารต้านอนุมูลอิสระในใบเหลียง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื้น และมีสุขภาพดี
- ช่วยบำรุงกระดูก: ใบเหลียงอุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญสำหรับการสร้างและบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
- **ช่วยระบบขับถ่าย:**ใยอาหารในใบเหลียงช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด: การศึกษาบางชิ้นพบว่า ใบเหลียงอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ทำให้เป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: สารต้านอนุมูลอิสระในใบเหลียง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง
- บำรุงโลหิต: ใบเหลียงมีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงโลหิต ป้องกันโรคโลหิตจาง
- ช่วยลดอาการอักเสบ: สารสกัดจากใบเหลียงมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
วิธีการรับประทานใบเหลียง
ใบเหลียงสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น
- ผัดกับไข่: เมนูยอดนิยมที่ทำง่ายและอร่อย
- แกงส้ม: เพิ่มความอร่อยและคุณค่าทางอาหารให้กับแกงส้ม
- ผัดกับเนื้อสัตว์: เช่น ผัดกับหมู หรือไก่
- ต้มจืด: เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
- นำไปทำเป็นอาหารว่าง: เช่น ใบเหลียงชุบแป้งทอด
สรุป
ใบเหลียงเป็นผักพื้นบ้านที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ หรือช่วยในการย่อยอาหาร การรับประทานใบเหลียงเป็นประจำจึงเป็นการดูแลสุขภาพที่ดีวิธีหนึ่ง
หมายเหตุ: แม้ว่าใบเหลียงจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม และควรปรึกษาแพทย์ก่อนหากมีโรคประจำตัว