April 15, 2025
โรคหน้าร้อน
อุณหภูมิที่สูงขึ้น ไม่ได้มีเพียงความอบอ้าวเท่านั้น แต่ยังมี "โรคหน้าร้อน" ต่างๆ ที่จ้องจะเข้ามาคุกคามสุขภาพของเรา

เมื่อลมร้อนพัดมาเยือน สิ่งที่ตามมาพร้อมกับอุณหภูมิที่สูงขึ้น ไม่ได้มีเพียงความอบอ้าวเท่านั้น แต่ยังมี “โรคหน้าร้อน” ต่างๆ ที่จ้องจะเข้ามาคุกคามสุขภาพของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้น เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคหลายชนิด การรู้ทันโรคยอดฮิตในช่วงหน้าร้อนนี้ จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ผ่านพ้นฤดูร้อนไปได้อย่างแข็งแรงและปลอดภัย

กลุ่มโรคระบบทางเดินอาหาร: ภัยเงียบที่มากับอาหารและน้ำ

อากาศที่ร้อนทำให้อาหารและน้ำบูดเสียได้ง่าย เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคต่างๆ เมื่อเราบริโภคอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อเหล่านี้เข้าไป ก็จะทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารได้ง่าย

  • โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน: เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดในช่วงหน้าร้อน เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิต มักมีอาการถ่ายเหลว ถ่ายเป็นน้ำ หรือถ่ายมีมูกเลือด อาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และมีไข้ร่วมด้วย
  • โรคอาหารเป็นพิษ: เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคหรือสารพิษของเชื้อโรคปนเปื้อน มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย อาจมีไข้และอ่อนเพลีย
  • โรคบิด: เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรืออะมีบา ทำให้มีอาการปวดท้องแบบปวดเบ่ง ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง และอาจมีมูกเลือดปน
  • อหิวาตกโรค: เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรง ทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำจำนวนมากโดยไม่มีอาการปวดท้อง และอาจมีภาวะขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว
  • โรคไทฟอยด์ หรือ ไข้รากสาดน้อย: เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดท้อง อาจมีท้องผูกหรือท้องเสียร่วมด้วย

การป้องกัน: เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สะอาด ดื่มน้ำสะอาด ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ เก็บรักษาอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสม

กลุ่มโรคจากความร้อน: อันตรายที่มองข้ามไม่ได้

เมื่อร่างกายต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดภาวะผิดปกติที่เกี่ยวกับความร้อนได้

  • ผดร้อน: เกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ ทำให้เกิดตุ่มเล็กๆ สีแดง คันตามผิวหนัง มักพบบริเวณข้อพับ คอ หน้าอก
  • ตะคริวจากความร้อน: เกิดจากการเสียเหงื่อมาก ทำให้ร่างกายสูญเสียเกลือแร่ มักมีอาการปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
  • เพลียแดด (Heat Exhaustion): เกิดจากการที่ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากเกินไป มีอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ เหงื่อออกมาก ตัวเย็นชื้น
  • โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke): เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อันตรายถึงชีวิต เกิดจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจมีอาการหมดสติ ชัก ตัวร้อนจัด ไม่มีเหงื่อ

การป้องกัน: หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน ดื่มน้ำให้เพียงพอ สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรพักผ่อนในที่ร่มเป็นระยะ

กลุ่มโรคติดต่ออื่นๆ ที่พบบ่อยในหน้าร้อน

  • โรคพิษสุนัขบ้า: พบได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าร้อนสัตว์อาจมีอาการหงุดหงิดง่ายขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการถูกกัด การป้องกันคือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ไม่คุ้นเคย และนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
  • โรคผิวหนัง: อากาศร้อนชื้นและเหงื่อ อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังต่างๆ เช่น กลาก เกลื้อน ผื่นคัน การรักษาความสะอาดของร่างกายและสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีจะช่วยป้องกันได้

การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อป่วยหน้าร้อน

หากมีอาการป่วยในช่วงหน้าร้อน สิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเองเบื้องต้น ดังนี้

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู
  • ดื่มน้ำมากๆ: เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • เช็ดตัวลดไข้: หากมีไข้สูง
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อน: เพื่อไม่ให้อาการแย่ลง
  • สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด: หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

สรุป

การเตรียมพร้อมรับมือกับโรคหน้าร้อนยอดฮิตเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เราและคนที่เรารักสามารถใช้ชีวิตในช่วงฤดูร้อนได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล การเลือกรับประทานอาหารที่สะอาด การหลีกเลี่ยงความร้อนจัด และการสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ได้ หากมีอาการป่วย ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม