May 20, 2025
พฤติกรรมทำผิวเสียในช่วงหน้าฝน
หลายพฤติกรรมที่เราทำเป็นประจำในช่วงหน้าฝน อาจส่งผลเสียต่อผิวโดยที่เราไม่รู้ตัว มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรระวัง

หน้าฝนมาเยือนพร้อมกับความชุ่มฉ่ำ แต่สำหรับผิวพรรณของเราแล้ว ความชื้นและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง กลับกลายเป็นปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ได้โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว หลายพฤติกรรมที่เราทำเป็นประจำในช่วงหน้าฝน อาจส่งผลเสียต่อผิวโดยที่เราไม่รู้ตัว มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรระวัง เพื่อให้ผิวของเรายังคงสวยใส สุขภาพดี แม้ในวันที่ฝนพรำ

พฤติกรรมทำผิวเสียในช่วงหน้าฝน

1. ละเลยการทาครีมกันแดด เพราะคิดว่าไม่มีแดด

ความเชื่อผิดๆ: หลายคนคิดว่าในช่วงหน้าฝนที่ท้องฟ้าครึ้ม ไม่มีแสงแดดจัด จึงไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดด

ความจริง: รังสี UV สามารถทะลุผ่านเมฆและละอองฝนมาทำร้ายผิวของเราได้เช่นเดียวกับวันที่แดดจ้า การละเลยการทาครีมกันแดดในช่วงหน้าฝน จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ผิวเผชิญกับรังสี UV ที่เป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัย

สิ่งที่ควรทำ: ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA ที่เหมาะสมเป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่ฝนตกหรือมีเมฆมาก

2. อาบน้ำอุ่นจัด เพื่อคลายความหนาว

ความรู้สึกสบาย: การอาบน้ำอุ่นจัดในช่วงที่อากาศเย็นจากฝนตก อาจทำให้รู้สึกสบายตัวและผ่อนคลาย

ผลเสียต่อผิว: น้ำอุ่นจัดจะดึงความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวออกไป ทำให้ผิวแห้งกร้าน ขาดความสมดุล และอาจนำไปสู่ปัญหาผิวแห้งแตก ลอกเป็นขุย หรือเกิดอาการคัน

สิ่งที่ควรทำ: อาบน้ำด้วยอุณหภูมิปกติ หรือน้ำอุ่นเล็กน้อย และทาโลชั่นบำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น

3. ปล่อยให้ผิวเปียกชื้นเป็นเวลานาน

ความไม่ใส่ใจ: หลังจากโดนฝน หลายคนอาจปล่อยให้ผิวเปียกชื้นโดยไม่ได้เช็ดให้แห้งสนิททันที

ผลเสียต่อผิว: ความชื้นที่สะสมอยู่บนผิวเป็นเวลานาน เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวหนังต่างๆ เช่น ผื่นคัน กลาก เกลื้อน หรือการอักเสบของรูขุมขน

สิ่งที่ควรทำ: เช็ดตัวและซับผิวให้แห้งสนิททันทีหลังจากโดนฝน โดยเฉพาะบริเวณซอกพับต่างๆ ของร่างกาย

4. ไม่ดูแลเสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่เปียกชื้น

ความละเลย: เสื้อผ้า รองเท้า หรือร่มที่เปียกฝน หากไม่ได้รับการดูแลและทำความสะอาดอย่างเหมาะสม อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย

ผลเสียต่อผิว: การสวมใส่เสื้อผ้าหรือรองเท้าที่อับชื้น อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง เกิดผื่นคัน หรือติดเชื้อราได้

สิ่งที่ควรทำ: ตากเสื้อผ้าและรองเท้าที่เปียกฝนให้แห้งสนิท และทำความสะอาดร่มอย่างสม่ำเสมอ

5. ละเลยการบำรุงผิว เพราะคิดว่าอากาศชื้นเพียงพอ

ความเข้าใจผิด: อากาศที่ชื้นในช่วงหน้าฝน อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าผิวได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอแล้ว จึงละเลยการบำรุงผิว

ความจริง: ความชื้นในอากาศไม่ได้สามารถทดแทนการบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมได้ การละเลยการบำรุงผิวอาจทำให้ผิวขาดสมดุล และยังคงต้องการความชุ่มชื้นจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอยู่

สิ่งที่ควรทำ: บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวเป็นประจำ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว

6. สัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ โดยไม่ล้างมือ

พฤติกรรมเคยชิน: การสัมผัสใบหน้าโดยไม่รู้ตัว เป็นพฤติกรรมที่หลายคนทำเป็นประจำ

ผลเสียต่อผิว: ในช่วงหน้าฝน เชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆ มักแพร่กระจายได้ง่าย การสัมผัสใบหน้าด้วยมือที่ไม่สะอาด จะเป็นการนำเชื้อโรคและสิ่งสกปรกมาสู่ผิวหน้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดสิวและการอักเสบ

สิ่งที่ควรทำ: หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น และล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำบ่อยๆ

สรุป

การดูแลผิวในช่วงหน้าฝนอาจต้องใส่ใจรายละเอียดมากกว่าปกติ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้น และหันมาดูแลผิวอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผิวของเรายังคงสวยใส สุขภาพดี และพร้อมรับมือกับทุกสภาพอากาศในช่วงหน้าฝนได้อย่างมั่นใจ

คำแนะนำ: สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณ และปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลผิวให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและความต้องการของผิวในช่วงนั้นๆ หากมีปัญหาผิวที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่ถูกต้อง