เบาหวานเปียก เบาหวานแห้ง ต่างกันอย่างไร? เข้าใจให้ถูกต้องเพื่อการดูแลสุขภาพที่ดี

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อย และมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วยอย่างมาก หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “เบาหวานเปียก” และ “เบาหวานแห้ง” แต่ยังไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างสองคำนี้ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจและอธิบายให้เข้าใจอย่างชัดเจน

เบาหวานเปียกและเบาหวานแห้ง คืออะไร?

• เบาหวานเปียก: หมายถึงภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดแผลที่หายยากและติดเชื้อได้ง่าย แผลเหล่านี้มักจะเปียกชื้นและลุกลามได้อย่างรวดเร็ว หากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่การตัดอวัยวะ เช่น เท้า หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตได้
• เบาหวานแห้ง: หมายถึงภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่ส่งผลต่อหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบตัน อาการที่พบได้บ่อยคือสายตาพร่ามัว ไตวาย และโรคหัวใจ

ความแตกต่างระหว่างเบาหวานเปียกและเบาหวานแห้ง

สาเหตุที่ทำให้เกิดเบาหวานเปียกและเบาหวานแห้ง

• ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง: เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทั้งสองชนิด
• การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ดี: หากไม่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
• ความดันโลหิตสูง: ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบตัน
• ไขมันในเลือดสูง: ทำให้หลอดเลือดอุดตัน
• การสูบบุหรี่: ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวเร็วขึ้น

วิธีป้องกันและดูแล

• ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย
• ควบคุมความดันโลหิตและไขมันในเลือด: รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
• ดูแลสุขภาพเท้า: ตรวจสอบเท้าทุกวัน ล้างเท้าด้วยน้ำอุ่นและสบู่ ซับให้แห้งโดยเฉพาะบริเวณระหว่างนิ้วเท้า ตัดเล็บเท้าให้สั้นและตรง ไม่ควรเดินเท้าเปล่า
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
• ไปพบแพทย์ตามนัด: เพื่อตรวจสุขภาพและติดตามอาการ

สรุป

ทั้งเบาหวานเปียกและเบาหวานแห้งล้วนเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงของโรคเบาหวาน การป้องกันที่ดีที่สุดคือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ และดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง